ตั้งแต่เริ่มมีการใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในเลนส์ (IS แบบออพติคอล) นักออกแบบกล้องก็เกิดแรงบันดาลใจที่จะนำคุณสมบัติของ IS แบบออพติคอลมาใช้กับเลนส์มาโครบ้าง แต่สำหรับการถ่ายภาพมาโครนั้นจะมีความท้าทายมากขึ้น เพราะนอกจากจะต้องใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเดิมที่ชดเชยการเปลี่ยนมุมองศาของเลนส์แล้ว ยังต้องชดเชยการสั่นในแนวดิ่งตามตำแหน่งซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวไปทางซ้ายขวาหรือเข้าใกล้/ออกห่างจากตัวแบบด้วย การสั่นของกล้องในประเภทหลังนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพที่ได้เป็นอย่างมากเมื่อถ่ายภาพในช่วงระยะใกล้ ขณะถ่ายภาพตัวแบบที่อยู่ไกล การเคลื่อนไหวที่ขนานไปกับแนวระนาบภาพจะส่งผลต่อภาพที่ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากเป็นการถ่ายภาพแบบมาโคร การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ภาพเสียหายได้ทั้งหมด Canon จึงต้องการสร้างระบบที่สามารถตรวจจับและชดเชยการสั่นของกล้องได้ทั้งสองประเภท และผลที่ได้คือระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริด (IS แบบไฮบริด)
Canon ใช้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว 2 แบบและอัลกอริธึมรุ่นใหม่ในการแก้ปัญหาการชดเชยการสั่นของกล้องทั้งแบบมุมองศาและในแนวดิ่ง นอกจากเซนเซอร์ความเร็วเชิงมุมรุ่นเดิมที่ทำหน้าที่ตรวจจับการสั่นของกล้องตามมุมองศาแล้ว IS แบบไฮบริดยังมีเซนเซอร์ตรวจจับความเร่งในแนวตรงอีกด้วย การเคลื่อนไหวของกล้องที่เซนเซอร์ทั้งสองตรวจพบจะถูกนำมารวมกับอัลกอริธึมที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อระบุระดับและทิศทางการเคลื่อนที่ของการสั่นของกล้อง
IS แบบไฮบริดสามารถถ่ายภาพได้นิ่งกว่า IS แบบเดิมมาก รวมถึงการถ่ายภาพสามมิติ (1 เท่า) แบบถือกล้องด้วยมือ ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถทำได้ยาก คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพมาโครโดยไม่ใช้ขาตั้งได้ด้วยความแม่นยำสูงแม้ในสถานการณ์ที่มีแสงน้อยซึ่งไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ EF100mm f/2.8L Macro IS USM เป็นเลนส์รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ และกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วด้วยการพลิกโฉมวิธีการถ่ายภาพมาโคร เลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ในเวอร์ชันเมาท์ RF ที่มีกำลังขยายสูงสุด 1.4 เท่าก็มี IS แบบไฮบริดเช่นกัน และระบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพมาโครโดยไม่ใช้ขาตั้ง