โลกแห่งเลนส์ Cinema - RF Lens World - Canon Thailand

    Canon เริ่มพัฒนาเลนส์กล้องในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ออพติคอลอันดับหนึ่งของโลก Canon จึงเป็นผู้นำด้านความล้ำสมัยในตลาดอยู่เสมอด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เลนส์ที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริงหลากหลายรุ่น

    ระบบ Cinema EOS ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2554 ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่ตลาดการถ่ายทำภาพยนตร์ ระบบ EOS มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวเลนส์ RF รุ่นใหม่ ความเป็นไปได้มากมายจึงแผ่ขยายมาสู่ตลาดเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ในขณะนี้

    Canon อยู่ระหว่างกระบวนการเปิดตัวเลนส์กลุ่มใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อปลุกเร้าจินตนาการของคอนเทนต์ครีเอเตอร์และเพิ่มขีดความสามารถในการถ่ายทอดภาพของคนเหล่านี้


    กลุ่มเลนส์

    กลุ่มเลนส์ตามการออกแบบเมาท์ RF


    ประวัติศาสตร์ของเลนส์ Canon Cinema

    เส้นทางแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ที่ปฏิวัติวงการภาพเคลื่อนไหว

    Canon ก้าวเข้าสู่ตลาดกล้องและเลนส์ระดับภาพยนตร์ด้วยระบบ Cinema EOS

    ในปี 2554 Canon ได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดแห่งการสร้างภาพถ่าย บริษัทนำเซนเซอร์ CMOS ที่พัฒนาและผลิตด้วยตนเองมาใช้ร่วมกับระบบประมวลผลภาพอันล้ำสมัย เทคโนโลยีการประกอบชิ้นส่วนแบบความหนาแน่นสูง และเทคโนโลยีออพติคอลระดับสูงที่ Canon ใช้เวลาในการพัฒนามาหลายทศวรรษ จุดแข็งเหล่านี้ถูกนำมารวมเข้าด้วยกันในซีรีย์เลนส์ถ่ายภาพยนตร์แบบถอดเปลี่ยนได้ นับแต่นั้น เลนส์เหล่านี้ก็ได้กลายเป็นตัวเลือกของผู้สร้างภาพยนตร์จำนวนมากที่ชื่นชอบไอเดียไม่เหมือนใครและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย

    Canon เปิดตัวเลนส์ CINE-SERVO ที่มีชุดขับเคลื่อน นั่นคือ CN7x17 KAS S/E1 และ CN7x17 KAS S/P1

    เลนส์เหล่านี้เป็นเลนส์ Cinema จาก Canon รุ่นแรกๆ ที่มีชุดขับเคลื่อนเป็นคุณสมบัติมาตรฐาน ชุดขับเคลื่อนเอื้อให้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลคล้ายกับเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ รวมถึงการซูมความเร็วสูง โฟกัส และการตั้งค่ารูรับแสงที่ตอบสนองต่อการปรับเปลี่ยนของช่างภาพในทันที

    Canon เปิดตัวซีรีย์เลนส์ Flex Zoom ที่ขยายขอบเขตในการถ่ายทอดภาพระดับภาพยนตร์และมีขีดความสามารถในการผลิตภาพยนตร์อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    Canon เปิดตัวซีรีย์เลนส์ Flex Zoom ซึ่งเป็นเลนส์ซีรีย์ใหม่ที่ช่วยให้ช่างภาพถ่ายทอดภาพระดับภาพยนตร์ได้หลากหลายยิ่งขึ้นพร้อมทั้งช่วยให้กระบวนการผลิตวิดีโอมีประสิทธิภาพมากขึ้น เลนส์ซีรีย์นี้เข้ากันได้กับกล้องที่มีเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมและเซนเซอร์ภาพขนาดใหญ่ และให้ความสว่างที่ T2.4 ตลอดช่วงการซูม เลนส์จะช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยังลดต้นทุนด้วย ในปี 2566 ได้มีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับเซนเซอร์ Super 35 มม. เข้ามาในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้กับโปรดักชั่นหลากหลายประเภท เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร หรือโฆษณา

    Canon เปิดตัวเลนส์เมาท์ RF รุ่นแรกสำหรับระบบ Cinema EOS ซึ่งก็คือเลนส์ซีรีย์ RF PRIME

    ตั้งแต่มีการเปิดตัวระบบ EOS R ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอให้มีการเปิดตัวเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ที่เข้ากันได้กับเมาท์ RF ซีรีย์เลนส์เมาท์ RF ที่ Canon เริ่มเปิดตัวในปี 2567 นั้นเข้ากันได้กับโปรโตคอลการสื่อสารของเมาท์ RF ซึ่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับกล้องได้อย่างมาก คุณสมบัตินี้ทำให้ถ่ายวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงขณะถ่ายทำจริงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในกระบวนการตัดต่อและโพสต์โปรดักชั่นอีกด้วย

    เลนส์ Cinema จาก Canon รองรับ Canon Virtual Production System

    ความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีการสร้างภาพถ่ายส่งผลให้ภาพยนตร์แบบความเป็นจริงเสมือน (VR) ถือกำเนิดขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถทำให้การถ่ายวิดีโอมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีก Canon ได้พัฒนาระบบ Canon Virtual Production System ขึ้นมา ซึ่งจะช่วยให้เลนส์ซีรีย์ PRIME แบบเมาท์ RF และ CN7x17 KAS T/R1 ส่งเอาต์พุตเมตาดาตาออกไปยังกล้องถ่ายภาพยนตร์ได้ในโปรดักชั่น VR เมื่อใช้ร่วมกับกล้องที่เข้ากันได้ ระบบจะรองรับการประมวลผล CG ความแม่นยำสูงทั้งแบบเรียลไทม์และในกระบวนการโพสต์โปรดักชั่น


    เทคโนโลยีเลนส์ Cinema

    เทคโนโลยีของ Canon ทำให้ภาพมีความละเอียดที่เหนือชั้นและใช้งานได้ง่าย

    เลนส์ถ่ายภาพยนตร์ RF เข้ากันได้กับขนาดภาพ Super 35 มม. ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับกล้องถ่ายภาพยนตร์ในยุคภาพยนตร์แบบดั้งเดิม เลนส์ใช้เทคโนโลยีออพติคอลจาก Canon เพื่อให้สามารถแก้ไขความคลาดหลากหลายรูปแบบได้อย่างดีเยี่ยมและมีความละเอียดสูงตั้งแต่กึ่งกลางไปจนถึงขอบภาพ สามารถนำเลนส์ไปใช้ร่วมกับทั้งกล้อง 4K และ 8K เลนส์เหล่านี้ให้ความเปรียบต่างสูงพร้อมทั้งคงความละเอียดที่เหนือชั้นเพื่อถ่ายทอดภาพแบบ 8K ออกมาได้อย่างแจ่มชัด อีกทั้งยังลดโอกาสในการเกิดแสงแฟลร์หรือแสงหลอกแม้ในสภาวะย้อนแสง เพื่อมอบภาพที่คมชัด

    สมดุลสีของเลนส์ Cinema จาก Canon จะเน้นโทนสีอุ่นซึ่งเป็นที่นิยมในโปรดักชั่นภาพยนตร์ และสามารถถ่ายทอดโทนสีผิวของมนุษย์ได้อย่างสมจริง สมดุลสีของเลนส์ทั้งหมดมีมาตรฐานที่เข้มงวดเพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าโทนสีที่ได้จะมีความเสถียรแม้เปลี่ยนเลนส์ในฉากเดิม เพื่อให้ได้ความแม่นยำในระดับนี้จึงนำเทคโนโลยีการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนแบบต่างๆ เช่น Super Spectra Coating มาใช้เพื่อแก้ไขแม้แต่สีเพี้ยนเล็กน้อยที่เกิดจากองค์ประกอบของกระจก

    ความยาวโฟกัสเปลี่ยน (Focus breathing) จะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มเลนส์โฟกัสเคลื่อนที่ ซึ่งทำให้กำลังขยายเปลี่ยนแปลงไป การออกแบบออพติคอลของเลนส์ RF Cinema จะยับยั้งการเกิดปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนเพื่อลดความผันผวนของมุมรับภาพพร้อมทั้งทำให้เฟรมภาพมีความมั่นคงแม้โฟกัสจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก

    โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งมีจำนวนม่านรูรับแสงมากเท่าใด ช่องรูรับแสงก็จะมีรูปร่างใกล้เคียงวงกลมที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นเท่านั้น ลักษณะเช่นนี้ส่งผลต่อเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่กลมมนและดูเป็นธรรมชาติตลอดช่วงรูรับแสงตั้งแต่ช่วงแคบไปจนถึงช่วงกว้าง เลนส์ RF Cinema จาก Canon มีม่านรูรับแสงไดอะแฟรมเป็นจำนวนคี่ ซึ่งจะช่วยลดปรากฏการณ์แสงจ้าที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแสงหักเหจากทิศทางตรงข้ามในแนวขนาน ปรากฏการณ์นี้สามารถทำให้แสงสะท้อนเด่นชัดมากขึ้นและเกิดแสงเรืองที่ไม่เป็นธรรมชาติ

    เส้นผ่านศูนย์กลางด้านหน้าของเลนส์ Prime ตามมาตรฐาน สามารถใช้อุปกรณ์เสริมที่มีแมทบ็อกซ์ชุดเดียวกันได้โดยไม่ต้องดัดแปลงแม้กระทั่งในเวลาเปลี่ยนเลนส์ เนื่องจากตำแหน่งโฟกัสและเฟืองไอริสนั้นได้มาตรฐานเช่นกัน ผู้ใช้จึงไม่ต้องคอยปรับตำแหน่งของ Follow Focus หรือเฟืองเสริมอื่นๆ ขณะเปลี่ยนเลนส์ คุณสมบัตินี้จึงช่วยให้ผู้ใช้พร้อมถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว

    เลนส์ซูมและเลนส์ Servo สำหรับระบบกล้องภาพยนตร์มีกลไกระยะ Flange Back แบบปรับได้บนเมาท์ จึงช่วยให้ผู้ใช้ปรับค่าได้ง่ายขึ้นในสถานที่ถ่ายทำ และยังเอื้อให้เกิดประสิทธิภาพด้านออพติคอลดีเยี่ยมเมื่อใช้ร่วมกับกล้องหลากหลายรุ่น

    วงแหวนโฟกัสมีตัวแสดงค่าและเส้นแสดงค่าทั้งทางด้านซ้ายและขวาของเลนส์ ซึ่งสามารถตรวจดูได้แม้จากด้านขวาของเลนส์ สารเคลือบเรืองแสงที่ด้านหนึ่งของจอแสดงค่าช่วยเพิ่มการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้นขณะถ่ายในเวลากลางคืนหรือในที่มืด


    แกลเลอรี่

    ภาพตัวอย่างจากมืออาชีพที่ใช้เลนส์ถ่ายภาพยนตร์จาก Canon

    ชื่อ: Scary Good
    ช่างถ่ายภาพยนตร์: Christine Ng
    เลนส์: CN-R24mm T1.5 L F, CN7x17 KAS T/R1