เมื่อเทคโนโลยีโฟกัสอัตโนมัติเต็มรูปแบบถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2528 บริษัทที่ผลิตกล้อง SLR โฟกัสอัตโนมัติส่วนใหญ่จะใช้ระบบหาระยะ/ขับเคลื่อนบอดี้ในตัว ในระบบนี้ มอเตอร์ขับเคลื่อน AF จะถูกติดตั้งลงไปในบอดี้กล้องและมีข้อต่อกลไกที่ทำหน้าที่ควบคุมการขับเคลื่อนเลนส์ แต่ Canon เลือกใช้วิธีการที่ต่างออกไป Canon เชื่อว่าหัวใจสำคัญของการวางจำหน่ายที่ประสบความสำเร็จในอนาคตคือการเลิกใช้เทคโนโลยีที่ล้าหลังและสร้างระบบใหม่ที่สุดท้ายแล้วจะนำหน้าระบบอื่นๆ ในด้านประสิทธิภาพและความสามารถที่จะเข้าใจความต้องการของช่างภาพได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง และนี่คือจุดเริ่มต้นของระบบ AF ใหม่ที่มีความแม่นยำสูงจาก Canon
เนื่องจากต้องการทำให้ระบบการถ่ายภาพทั้งหมดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Canon จึงเลิกใช้ระบบหาระยะ/ขับเคลื่อนในตัวแบบเก่า แต่ใส่ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์แยกกันเข้าไปภายในเลนส์แต่ละชิ้นแทน และเลือกการออกแบบมอเตอร์ที่เหมาะกับเลนส์แต่ละชนิดมากที่สุด ตั้งแต่เลนส์ฟิชอายไปจนถึงเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ “แอคทูเอเตอร์ที่เหมาะสำหรับเลนส์จะอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับชุดขับเคลื่อนมากที่สุด และการส่งสัญญาณข้อมูลรวมถึงการควบคุมทั้งหมดจะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุม” นี่คือวิธีการออกแบบระบบขับเคลื่อน AF ของ Canon Canon สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียการถ่ายโอนพลังงาน และลดเสียงจากชุดขับเคลื่อนได้โดยการติดตั้งแอคทูเอเตอร์ให้ติดกับชุดขับเคลื่อน และ Canon ยังผลิตแอคทูเอเตอร์แบบอื่นๆ และออกแบบชุดขับเคลื่อนที่สามารถสร้างแรงบิดในการโฟกัสให้เหมาะกับเลนส์แต่ละชิ้น เมื่อใช้วิธีนี้ แม้แต่เลนส์ชิ้นใหญ่ที่สุดก็ยังสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ระบบนี้ทำงานได้ดีกว่าระบบขับเคลื่อนบอดี้ในเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ ซึ่งชุดขับเคลื่อนจะอยู่ห่างจากตัวกล้อง จึงทำให้สามารถติดตั้งระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำในเลนส์เทเลโฟโต้ได้ คุณสมบัติที่ดีที่สุดข้อหนึ่งของเลนส์ซีรีย์ L ระดับมืออาชีพคือระบบที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเวลานานและใช้งานได้ดีแม้ในสภาวะสมบุกสมบัน เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้กับระบบ EOS R และเลนส์ RF และยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น