บทสัมภาษณ์ผู้ออกแบบระบบออพติคอล - RF Lens World - Canon Thailand

    บทสัมภาษณ์ผู้ออกแบบระบบออพติคอลของเลนส์ RF100mm f/2.8L MACRO IS USM

    เหตุใดเราจึงจำเป็นต้องใช้เลนส์มาโคร

    ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการถ่ายภาพดอกไม้ขนาดเล็กให้ใหญ่ขึ้น คุณก็ต้องขยับเข้าไปให้ใกล้ขึ้นใช่ไหม แต่เลนส์ทั่วไปส่วนใหญ่จะโฟกัสได้ไม่ดีนักแม้คุณจะเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่ใหญ่ขึ้นก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น แม้กล้องจะอยู่ในโฟกัส แต่ยิ่งคุณเข้าใกล้ขึ้นเท่าใด ปกติแล้วคุณภาพของภาพก็จะแย่ลงเท่านั้น เลนส์มาโครออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ด้วยการให้โฟกัสที่คมชัดแม้คุณจะอยู่ใกล้กับตัวแบบ

    RF100mm F2.8 L MACRO IS USM Optical Designer Interview

    ผู้ออกแบบระบบออพติคอล: Takeo Mori

    เลนส์ซูมและเลนส์มาโครมีการออกแบบที่คล้ายกัน เพื่อเพิ่มกำลังขยายในการถ่ายภาพ เลนส์มาโครจะทำให้เลนส์แต่ละชิ้นมีช่วงที่กว้างขึ้นมาก ซึ่งค่่อนข้างคล้ายกับเลนส์ซูม แต่โฟกัสอัตโนมัติจะต้องใช้การออกแบบพิเศษเนื่องจากต้องอาศัยความเร็วและความแม่นยำต่างจากการซูมแบบแมนนวล ด้วยเหตุผลนี้ เลนส์มาโครที่สามารถโฟกัสอัตโนมัติได้จึงใช้เทคโนโลยีมากมายเพื่อให้มีความเร็วและความแม่นยำ ซึ่งรวมถึงการใช้งานและการควบคุมเลนส์ นอกเหนือไปจากน้ำหนักของเลนส์และแนวการเคลื่อนที่

    เราตั้งเป้าให้เลนส์นี้มีกำลังขยาย 1.4 เท่าเพื่อให้ถ่ายภาพมาโครได้อย่างมั่นใจและสื่ออารมณ์ได้มากขึ้น หากใช้เลนส์ที่มีกำลังขยาย 1.0 เท่า โฟกัสมักจะเสียไปเมื่อตัวแบบขยับเข้าใกล้ตำแหน่งถ่ายภาพเพียงเล็กน้อย แต่คุณจะมีระยะถ่ายภาพให้เลือกมากกว่าหากใช้เลนส์มาโครที่มีกำลังขยายสูงสุด 1.4 เท่า แม้จะขยับเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน แต่ตัวแบบจะยังคงอยู่ในโฟกัส คุณจึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ หากถ่ายภาพด้วยกำลังขยายเท่ากันหรือสูงกว่า คุณจะได้เห็นโลกอันน่าทึ่งที่แตกต่างไปจากสิ่งที่ดวงตาของคุณมองเห็นอย่างสิ้นเชิง ผมอยากให้คุณได้เห็นโลกมาโครอันน่าทึ่งด้วยเลนส์นี้

    เลนส์นี้จำเป็นต้องใช้การออกแบบที่ต่างไปจากเลนส์ดั้งเดิมเพื่อให้ได้กำลังขยาย 1.4 เท่า เราสามารถเพิ่มช่วงการเคลื่อนที่ของเลนส์โฟกัสได้สูงสุดเนื่องจากใช้รูรับแสงกว้างและระยะแบ็คโฟกัสสั้น เลนส์นี้ได้กำลังขยาย 1.4 เท่ามาจากการขยับเลนส์โฟกัสเข้าไปจนชิดขอบเมาท์เพื่อแยกโฟกัสออกจาก IS และให้รูรับแสงอยู่ด้านหน้า ซึ่งจะแตกต่างจากเลนส์มาโครทั่วไป เมื่อเวลาผ่านไป ออพติคของเลนส์มาโครทั่วไปก็มีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ชนิดของโฟกัสและ IS รวมถึงตำแหน่งของรูรับแสงโดยมากจะยังคงเดิม

    สิ่งสำคัญคือต้องพยายามไม่ยึดติดอยู่กับความคิดแบบเดิมๆ และเริ่มต้นจากพื้นฐานเสมอ ผมคิดว่าการทำสิ่งที่อยู่นอกกรอบและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาเป็นเรื่องยากไม่ว่าในสาขาใด การออกแบบของเลนส์มาโครนี้มีจุดเริ่มต้นที่เลนส์นูนหนึ่งชิ้นแทนที่จะใช้การออกแบบเลนส์เดิมที่มีอยู่ ดังนั้น เลนส์นี้จึงอาจมีองค์ประกอบทางโครงสร้างที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหากเทียบกับเลนส์มาโครรุ่นอื่นเมื่อคุณมองจากภาพตัดด้านข้าง

    เรามักใช้ชิ้นเลนส์พิเศษในการแก้ความคลาดต่างๆ แต่เลนส์รุ่นนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ชิ้นเลนส์พิเศษเลย ที่เป็นเช่นนี้เพราะเราใช้ชิ้นเลนส์เว้าที่โฟร์กราวด์ในการรับแฉกแสงอย่างนุ่มนวลจากตัวแบบที่อยู่ใกล้ แล้วจึงค่อยๆ ทำให้แสงเกิดการโค้งงอ จึงลดความคลาดทรงกลมได้ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มชิ้นเลนส์นูนเพื่อแก้ไขความคลาดสีด้วย

    เมื่อคุณเพิ่มกำลังขยายในการถ่ายภาพ ช่วงโฟกัสจะแคบลงมากและช่วงการเบลอจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้ภาพที่ได้ดูงดงามเหนือจริงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้แต่การสั่นของกล้องเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้กล้องหลุดโฟกัสไปได้ ซึ่งทำให้ยากต่อการจับโฟกัสในส่วนที่คุณต้องการ นอกจากนี้ เพราะตัวแบบจะดูมีขนาดใหญ่ขึ้น การสั่นของกล้องจึงส่งผลกระทบได้มากกว่าปกติ ดังนั้น เมื่อถ่ายภาพที่กำลังขยาย 1.4 เท่า คุณจึงต้องใช้โฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำและระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่มีประสิทธิภาพ

    เมื่อนำเลนส์ป้องกันภาพสั่นไหวมาใช้ เราต้องการให้มองเห็นความคลาดในรูปแบบต่างๆ ได้น้อยลง และเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันภาพสั่นไหวที่ดียิ่งขึ้นอีก ระบบนี้จะทำงานร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในบอดี้กล้อง

    เราต้องขยับเลนส์หลายชิ้นออกไปเพื่อให้ได้กำลังขยาย 1.4 เท่า “Nano USM” ซึ่งเป็นมอเตอร์อัลตร้าโซนิคที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Canon คือชิ้นส่วนที่ทำให้โฟกัสอัตโนมัติของเลนส์นี้มีความเร็วและความแม่นยำสูง

    เราออกแบบเลนส์นี้ให้ถ่ายภาพคุณภาพสูงได้ในทุกสถานการณ์ รวมถึงภาพทิวทัศน์และภาพพอร์ตเทรต จึงไม่ได้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพมาโครเพียงอย่างเดียว

    เลนส์มาโครรุ่นนี้มี Nano USM จึงสามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างสะดวกสบายด้วยโฟกัสอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างเงียบเชียบและว่องไว นอกจากนี้ ในขณะถ่ายวิดีโอ คุณอาจกังวลว่าจะเกิดปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยน ซึ่งก็คือการที่มุมรับภาพเปลี่ยนแปลงไปขณะจับโฟกัส แต่เลนส์นี้ใช้ระบบโฟกัสชนิดใหม่ ปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนจึงลดน้อยลง

    ความสามารถของ Nano USM ในการเปลี่ยนแนวการเคลื่อนที่ของโฟกัสได้อย่างอิสระเป็นรากฐานให้กับแนวคิดในการควบคุมความคลาดทรงกลมหรือที่เรียกว่า “SA” เราสามารถเพิ่มอิสระในการแสดงอารมณ์ได้เมื่อทำให้โบเก้นุ่มนวลลงหรือแข็งกระด้างขึ้นโดยการค่อยๆ ปรับความคลาด ซึ่งจะทำให้คุณภาพของภาพลดลง

    ช่วงนี้ผมมักจะถ่ายภาพปลาคิลลี่และกุ้งตัวเล็กๆ ตั้งแต่ลูกของผมได้ปลาคิลลี่มา ผมก็ตั้งตู้ปลาเอาไว้ที่บ้าน การจัดตู้ปลาเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลินสำหรับเรา และตอนนี้เราก็มีตู้ปลาสี่ตู้แล้ว ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นปลาตัวเล็กๆ และกุ้งว่ายน้ำไปมา ซึ่งตอนนี้ผมสามารถถ่ายภาพโคลสอัพของปลาเหล่านี้โดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องได้อย่างง่ายดาย เลนส์สามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วโดยเกิดการสั่นน้อย และกำลังขยาย 1.4 เท่ายังให้เปอร์สเปคทีฟที่ไม่เหมือนใคร ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขไปกับการถ่ายภาพมาโครเหมือนผมเมื่อใช้เลนส์นี้