แคนนอน เดินเกมรุกตลาด-อุตฯ การพิมพ์ไทย เปิดตัวเครื่องพิมพ์ imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ชูฟีเจอร์อัจฉริยะ 4 แกนหลัก สร้างมาตรฐานงานพิมพ์คุณภาพสูง-ปลอดภัย–ยั่งยืน รับเทรนด์คอนซูมเมอร์ตลาดองค์กรยุคไฮบริด - Canon Thailand

    แคนนอน เดินเกมรุกตลาด-อุตฯ การพิมพ์ไทย เปิดตัวเครื่องพิมพ์ imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่
    ชูฟีเจอร์อัจฉริยะ 4 แกนหลัก สร้างมาตรฐานงานพิมพ์คุณภาพสูง-ปลอดภัย–ยั่งยืน
    รับเทรนด์คอนซูมเมอร์ตลาดองค์กรยุคไฮบริด

    ตอกย้ำผู้ครองแชมป์เบอร์หนึ่งแห่งภูมิภาคเอเชีย เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน
    พร้อมโชว์ศักยภาพฐานการผลิตพรินเตอร์คุณภาพระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Made in Thailand ณ ปราจีนบุรี

    บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon) ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก เปิดเกมรุกธุรกิจงานพิมพ์ไทยเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน Canon ตระกูล imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรม AI ล้ำสมัย พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานในโลกธุรกิจภายใต้ 4 แนวคิดหลัก คือ

    1. ความน่าเชื่อถือในคุณภาพ
    2. ความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูล
    3. การเชื่อมต่อที่ครอบคลุม และ
    4. การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

    เดินหน้าปฏิวัติโซลูชันงานพิมพ์กับก้าวสำคัญสู่การปรับภาพลักษณ์จากผู้จำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารแบบเดิม สู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคไฮบริดมากยิ่งขึ้น พร้อมโชว์ศักยภาพโรงงานแคนนอน จังหวัดปราจีนบุรี สู่การสร้างฐานการผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันคุณภาพระดับโลกอีกด้วย

    นายฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แคนนอนมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างแท้จริง ซึ่งไม่เพียงแค่ฟีเจอร์ใช้งานที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโซลูชันการพิมพ์ที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในยุค AI ได้อย่างครับครัน เพราะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงปลอดภัย และการเชื่อมต่อออนไลน์ ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในธุรกิจทุกประเภท เราจึงได้พัฒนา imageFORCE Series เพื่อช่วยสนับสนุนงานพิมพ์ได้อย่างชาญฉลาด พร้อมกับผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของเรา ทั้งในด้านวัสดุ การประหยัดพลังงาน และการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าในระยะยาว เราจึงมั่นใจว่า imageFORCE Series จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยได้อย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านในการเดินหน้าแคมเปญครั้งนี้ร่วมกัน”

    แคนนอนมีเป้าหมายในการพัฒนานวัตกรรมที่ดีที่สุดสู่ผู้คนทั่วโลก ผ่านการจัดตั้งศูนย์การผลิตระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงสุดโดยอาศัยทักษะฝีมือแรงงานไทยที่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าสากล โรงงานแคนนอนในประเทศไทยดำเนินการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกควบคู่กับความเชี่ยวชาญด้านการผลิตขั้นสูง โดยแรงงานท้องถิ่นที่มีความสามารถสูง เพื่อมุ่งเน้นกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง แม่นยำ และได้มาตรฐานสากล พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

    นายมาโกโตะ นากามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series นี้ ไม่ใช่แค่ก้าวสำคัญของแคนนอน แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับโลก แคนนอนให้ความสำคัญกับการส่งมอบนวัตกรรมคุณภาพสูงอย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โรงงานแคนนอนปราจีนบุรีมีการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยและใช้วัสดุรีไซเคิลกว่า 30% นอกจากนี้เรายังคงยึดหลักความละเอียดและแม่นยำในการผลิตควบคู่กับการดูแลพนักงาน เพราะเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ปัจจุบัน โรงงานแคนนอนปราจีนบุรี ในประเทศไทยผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน รุ่น imageRUNNER และ imageRUNNER ADVANCE DX ทั้งหมด 20 รุ่น และกำลังผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่ม imageFORCE Series ใหม่เพิ่มเติมอีก 9 รุ่นภายในปี 2568”

    imageFORCE Series มอบโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่

    เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดจากแคนนอน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Make Business Move” โดยไม่เพียงนำเสนอนวัตกรรมการพิมพ์ประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุกมิติ โดยครอบคลุม 4 แนวคิดหลัก ได้แก่

    1. Reliability – มอบคุณภาพที่คุณเชื่อถือได้สูงสุดเพราะผลิตขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด ณ โรงงานแคนนอนจังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้มาตรฐานระดับโลกและฝีมือแรงงานไทยที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูล AI แบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพและแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงรุก
    2. Security – มอบความปลอดภัยแบบ 360° เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญผ่านการประเมินความปลอดภัยของระบบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำการตั้งค่าความปลอดภัยที่เหมาะสม ตามสภาพแวดล้อมขององค์กรที่แตกต่างกัน
    3. Connectivity – การเชื่อมต่อที่ราบลื่นได้หลายช่องทาง สามารถใช้ร่วมกับบริการ Cloud ชั้นนำ เช่น Google Drive™, Dropbox, OneDrive รวมถึงเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams, SharePoint Online และแอปพลิเคชันมือถือ Canon PRINT ได้อย่างง่ายดาย จึงสนับสนุนการทำงานทางไกลแบบไร้รอยต่อ
    4. Sustainability – ตอบโจทย์ความยั่งยืนเพื่ออนาคต โดย imageFORCE Series ทุกรุ่นใช้วัสดุรีไซเคิลมาสูงถึง 30% พร้อมเทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ผงหมึกจุดหลอมเหลวต่ำและระบบหลอมรวมแบบตามความต้องการ รวมถึงผสานแนวคิดรักษ์โลกในทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการผลิต

    กลยุทธ์ของส่วนงานแคนนอน บิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น (Business Imaging Solution) ยังคงให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ซึ่งครอบคลุมโซลูชันด้านการพิมพ์ การจัดการเอกสาร และระบบการทำงานอัตโนมัติในสำนักงาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในการทำงานยุคไฮบริด นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกภาคส่วนขององค์กร เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และสร้างความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัลนอกจากนี้แคนนอนยังคงมุ่งมั่นผสานเทคโนโลยี AI Smart Maintenance และการผสานการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์เพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีเวิร์กโฟลว์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

    นายพงศพร กรอบสนิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แนวโน้มการทำงานยุคใหม่ชี้ชัดว่า องค์กรให้ความสำคัญกับความร่วมมือในสำนักงาน ความปลอดภัยของข้อมูล ความยั่งยืน และการนำ AI มาใช้มากขึ้น แคนนอนจึงต้องปรับตัวเพื่อส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการเปลี่ยนแปลงนี้ จากผลสำรวจตามรายงาน Quocirca: Print Industry Trends 2025 รายงานว่า กว่า 69% ของลูกค้าคาดหวังให้ซัพพลายเออร์หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมีส่วนร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกมีแผน ลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning แสดงให้เห็นว่าองค์กรในวันนี้ต้องการเทคโนโลยีที่ทั้งชาญฉลาดและยั่งยืน และแคนนอนเชื่อว่าโซลูชันด้านการพิมพ์ในอนาคต ต้องไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ต้องผสานความปลอดภัย ระบบคลาวด์ และความยืดหยุ่นของ Hybrid Work ได้อย่างลงตัว”

    แคนนอน ครองอันดับ 1 ตลาดเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน - เลเซอร์ A3 และ A4 ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อนในภูมิภาคเอเชีย[1]

    การเติบโตที่สวนกระแสตลาดด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่ ทำให้แคนนอนสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดกลุ่มเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารขาวดำ ได้ถึง 28% กลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารสีกว่า 20% แม้ภาพรวมตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า

    “ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายสูงถึง 25,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 127% นอกจากนี้แนวโน้มตลาดในอนาคต ยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความปลอดภัยหลัก ดังนั้นโจทย์ของแคนนอนคือไม่เพียงแต่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังต้องมองเรื่องของความยั่งยืนควบคู่กันด้วย อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่ลดการพิมพ์ลง มีผู้ใช้งานกว่า 60% มองว่าการพิมพ์เป็นสิ่งจำเป็นในการสื่อสารกับลูกค้า และ 57% เชื่อว่าข้อมูลสำคัญควรนำเสนอในรูปแบบสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดยังคงมีความต้องการอุปกรณ์ที่มี คุณภาพสูง ปลอดภัย และตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งแคนนอนสามารถตอบสนองได้อย่างครอบคลุม” นายพงศพร กล่าวเสริม

    ดังนั้นภายในปีพ.ศ 2568 นี้ แคนนอนจึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series 4 รุ่น ที่ มาพร้อมระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร มอบประสบการณ์การใช้งานที่ทรงพลัง เข้าใจง่าย และช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดดังนี้

    1. imageFORCE C5100 – เครื่องพิมพ์ A3 สีความเร็วสูง รองรับปริมาณงานพิมพ์มาก พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ
    2. imageFORCE 6100 – เครื่องพิมพ์ A3 ขาวดำ ตอบสนองการใช้งานของทีมงานที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
    3. imageFORCE C7165 – เครื่องพิมพ์สี รุ่นเรือธงที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ครบเครื่องทั้งคุณภาพงานพิมพ์และฟีเจอร์อัจฉริยะแบบจัดเต็ม
    4. imageFORCE C3150 – เครื่องพิมพ์สี ดีไซน์กะทัดรัดเหมาะสำหรับออฟฟิศขนาดกลาง และรองรับงานพิมพ์ความเร็วสูงได้ กำหนดวางจำหน่ายในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

    พร้อมกันนี้แคนนอนยังได้นำเสนอ 2 นวัตกรรมใหม่ คือ เทคโนโลยี D² Exposure ที่ใช้อุปกรณ์การผลิตจอแสดงผลไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED) ในการพิมพ์ มอบคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมียม ด้วยสีสันคมชัด ตัวอักษรคมชัดทุกมิติ และความละเอียดสูงถึง 4,800 x 2,400 dpi เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูงในทุกชิ้นงาน ผลิตภัณฑ์กลุ่ม imageFORCE series คืออีกก้าวสำคัญของแคนนอน ในการสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล และยกระดับการบริการไปอีกขั้นด้วย เทคโนโลยี E2 Analysis การวิเคราะห์ข้อมูลและอัลกอริทึมด้วย AI ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหางานพิมพ์ล่วงหน้าได้จากระยะไกลก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น ถือเป็นการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์ ลดความผิดพลาด ลดเวลาหยุดชะงัก (downtime) และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม อีกทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานนี้จะช่วยให้ระบบสามารถปรับปรุงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

    เดินหน้าสู่พันธกิจเพื่อความยั่งยืนของแคนนอน

    แคนนอนยังคงมุ่งมั่นดำเนินพันธกิจในฐานะผู้นำเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะในยุคที่การเชื่อมต่อออนไลน์ ความปลอดภัย และความยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้แคนนอนให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างสมดุลในทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้คน พร้อมเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมงานพิมพ์ไทยให้เติบโตสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

    [1] อ้างอิงจากผลสำรวจ IDC Tracker ปี 2567