ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความคาดหวังที่มีต่อคุณสมบัติต่างๆ ของเลนส์ L ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงเมื่อใช้กล้อง EOS นักพัฒนาของ Canon จึงจำเป็นต้องคิดค้นการออกแบบออพติคอลที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในด้านความละเอียดของภาพและความเปรียบต่าง Canon พยายามค้นหาโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในยุคใหม่อย่างต่อเนื่องโดยอาศัยทั้งเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงกระบวนการและระบบในการผลิตที่ช่วยให้สามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการในท้องตลาดได้ ในส่วนนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับสถานที่และเครื่องมือที่ Canon ใช้ในการวิจัย พัฒนา และทำการผลิตกัน
เมื่อจำนวนพิกเซลในเซนเซอร์กล้องดิจิทัลมาตรฐานพุ่งสูงขึ้น ผู้ใช้จึงคาดหวังให้ประสิทธิภาพออพติคอลของเลนส์เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ Canon จึงตั้งมาตรฐานสำหรับประสิทธิภาพด้านออพติคอลของเลนส์ RF เอาไว้สูงมาก เลนส์ L ออกแบบมาให้มีความละเอียดและความเปรียบต่างสูงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงให้คุณภาพของภาพที่เหนือชั้นแม้ในขณะดูภาพที่กำลังขยายสูง ในการออกแบบและประเมินประสิทธิภาพของเลนส์ซีรีย์ L เราจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องความละเอียดและความเปรียบต่างของความยาวคลื่นในช่วงความถี่สูง เนื่องจากจะช่วยให้ภาพยังคงมีคุณภาพสูงแม้ผ่านการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น
Canon ออกแบบเลนส์โดยอาศัยหลักการจากทฤษฎีออพติคอลระดับสูงและเครื่องมือการออกแบบออพติคอล (ซอฟต์แวร์) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของเราเอง เมื่อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการออกแบบเลนส์มีความสามารถในการประมวลผลมากขึ้น เวลาที่ใช้ในการออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพให้เลนส์รุ่นใหม่โดยการคำนวณโครงสร้างเลนส์เพื่อลดความคลาดต่างๆ จึงลดลงอย่างมาก Canon ไม่เคยลดมาตรฐานลงหากเป็นเรื่องของการค้นหาโซลูชันที่เหมาะสม เราทำแม้กระทั่งพัฒนาเครื่องมือประเมินออพติคอลขึ้นมาเอง เช่น ระบบจำลองภาพใหม่ล่าสุดและการจำลองการวิเคราะห์ความคลาดเคลื่อนเพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านออพติคอลให้สูงขึ้นอีก
ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ ความแม่นยำ ความแข็งแรง การป้องกันแรงกระแทก การป้องกันการสั่นสะเทือน การป้องกันสภาพแวดล้อม และความทนทานในการใช้งาน เลนส์ RF จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานทุกข้อเพื่อความน่าเชื่อถือก่อนที่ Canon จะนำออกวางจำหน่ายให้ลูกค้า กระบวนการทดสอบจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งหากต้องการให้เลนส์แต่ละชิ้นมีความน่าเชื่อถือโดยรวมในระดับสูง การผลิตเลนส์ Canon จึงเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบในขั้นแรกเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือในสภาวะที่จะนำเลนส์ไปใช้งานจริง หลังผ่านการทดสอบที่เข้มงวดหลายครั้งในช่วงที่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ในที่สุดเลนส์จะก็เข้าสู่กระบวนการผลิตจำนวนมาก Canon ได้กำหนดมาตรฐานในการควบคุมคุณภาพขึ้นมาเองสำหรับผลิตภัณฑ์เลนส์เชิงพาณิชย์ ซึ่งมาตรฐานนี้เรียกว่า Canon Standard (CS) และเลนส์ L ก็ใช้มาตรฐานที่เข้มงวดยิ่งขึ้นอีกในด้านการควบคุมการผลิต การออกแบบออพติคอล และการออกแบบกลไก ความคลาดเคลื่อนของพื้นที่ การเอียง ความเยื้องศูนย์กลาง และข้อมูลจำเพาะอื่นๆ ของเลนส์จะอยู่ภายใน 1/100 ของหนึ่งมิลลิเมตรเท่านั้น เลนส์แต่ละชิ้นจะผ่านการปรับแต่งความแม่นยำตามความจำเป็น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูง ความน่าเชื่อถือของเลนส์ L นั้นเป็นผลโดยตรงจากความพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถืออย่างไม่ย่อท้อตลอดเวลาหลายทศวรรษ
เทคโนโลยีการผลิตเลนส์ระดับสูง ชิ้นเลนส์ออพติคอล และเทคโนโลยีการเคลือบล้วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเลนส์ซีรีย์ L โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพออพติคอล เพื่อให้ได้ภาพคุณภาพสูงที่ลูกค้าคาดหวังจากเลนส์ L Canon จึงได้พัฒนาและเปิดตัวเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมแบบเจียรที่มีความแม่นยำสูง เลนส์ฟลูออไรต์ และเทคโนโลยีการผลิตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบแบบ Subwavelength Structure Coating (SWC) และการเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างเลนส์ Ultra-low Dispersion (UD) และเลนส์ Super UD
การผลิตเลนส์ซีรีย์ L ที่ให้คุณภาพของภาพสูงเป็นพิเศษและมีประสิทธิภาพสูงต้องอาศัยความแม่นยำในระดับที่สูงมากในการผลิตและประกอบชิ้นส่วน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน เราจึงต้องใช้ทั้งสถานที่ผลิตและเครื่องมือวัดที่ทันสมัยที่สุด รวมถึงพนักงานที่มีทักษะเชี่ยวชาญระดับสูง พนักงาน Canon ที่มีทักษะเชี่ยวชาญจะเป็นผู้รับผิดชอบการผลิตเลนส์ L ในส่วนที่ต้องใช้ความประณีตมากที่สุด เช่น การผลิตชิ้นเลนส์ให้สมบูรณ์แบบในระดับที่เล็กกว่าไมครอนและประกอบชิ้นเลนส์ด้วยความแม่นยำสูง รวมถึงการเจียรชิ้นเลนส์มาตรฐาน (ต้นแบบ) ที่ใช้ในการผลิตเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมแบบเจียร Canon ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพได้โดยการมอบหมายงานแต่ละขั้นตอนสำหรับเลนส์แต่ละชนิดให้กับระบบอัตโนมัติหรือพนักงานที่มีทักษะอย่างมีประสิทธิภาพ เราทำแม้กระทั่งเริ่มศึกษาค้นคว้าวิธีการออกแบบสถานที่และเครื่องมือในการผลิตที่สามารถตอบสนองความรู้และวิธีการทางวิศวกรรมในระดับสูงของพนักงานที่มีทักษะเชี่ยวชาญของเราได้ดียิ่งขึ้น ด้วยวิธีนี้ Canon จึงสามารถปฏิวัติกระบวนการผลิตเลนส์ได้เป็นผลสำเร็จ