ความละเอียดในการพิมพ์เป็นการบ่งบอกว่าพรินเตอร์สามารถพิมพ์รายละเอียดบนกระดาษได้มากน้อยเพียงใดโดยคำนวณเป็นจำนวนจุดต่อนิ้ว (dpi)
ปกติแล้วเวลาที่พูดถึงความละเอียดจะต้องประกอบด้วยเลขสองชุดด้วยกัน (เช่น 2400 x 1200 dpi) ตัวเลขชุดแรกจะบอกจำนวนจุดที่พรินเตอร์สามารถพิมพ์ได้ในแนวนอนของกระดาษในหนึ่งนิ้ว ตัวเลขชุดที่สองบอกจำนวนจุดที่พรินเตอร์สามารถพิมพ์ได้ในแนวตั้งของกระดาษในหนึ่งนิ้ว แน่นอนว่ายิ่งตัวเลขนี้สูงเท่าใดภาพที่ได้ก็จะสวยงามยิ่งขึ้นเท่านั้น
แต่บางครั้งผู้บริโภคอาจตัดสินเรื่องความละเอียดของพรินเตอร์ ด้วยตัวเลขชุดหน้าเท่านั้น จึงเกิดความเข้าใจผิดว่า พรินเตอร์ที่มีความละเอียด 2880 x 720 dpi มีความละเอียดสูงกว่าพรินเตอร์ที่มีความละเอียด 2400 x 1200 dpi เพราะตัวเลข 2880 dpi ก็ย่อมสูงกว่า 2400 dpi
จริงอยู่ที่พรินเตอร์เครื่องแรกนั้นสามารถอัดจุดลงได้มากถึง 2880 จุดในแนวนอน แต่ในแนวตั้งนั้นกลับทำได้เพียง 720 จุด ดังนั้นจุดในแนวนอนจะชิดกันมากแต่จุดในแนวตั้งจะกระจายห่างจากกัน งานพิมพ์ภาพที่เกิดจากพรินเตอร์ 2880 x 720 dpi จึงหยาบกว่าที่พิมพ์ได้จากพรินเตอร์ 2400 x 1200 dpi ดังนั้นจึงควรตรวจสอบจำนวนจุดรวมที่พรินเตอร์สามารถพิมพ์ได้ก่อนที่จะทำการประเมินความละเอียดของพรินเตอร์ใดๆ
ความละเอียดในการพิมพ์เป็นการบ่งบอกว่าพรินเตอร์สามารถพิมพ์รายละเอียดบนกระดาษได้มากน้อยเพียงใดโดยคำนวณเป็นจำนวนจุดต่อนิ้ว (dpi)
ปกติแล้วเวลาที่พูดถึงความละเอียดก็จะต้องประกอบด้วยเลขสองชุดด้วยกัน (เช่น 2400 x 1200 dpi) ตัวเลขชุดแรกมักจะบอกจำนวนจุดที่พรินเตอร์สามารถพิมพ์ได้ในแนวนอนของกระดาษในหนึ่งนิ้ว ตัวเลขชุดที่สองบอกจำนวนจุดที่พรินเตอร์สามารถพิมพ์ได้ในแนวตั้งของกระดาษในหนึ่งนิ้ว แน่นอนว่ายิ่งตัวเลขนี้สูงเท่าใดภาพที่ได้ก็จะสวยงามยิ่งขึ้นเท่านั้น
แต่บางครั้งผู้บริโภคอาจตัดสินเรื่องความละเอียดของพรินเตอร์ ด้วยตัวเลขชุดหน้าเท่านั้น จึงเกิดความเข้าใจผิดว่า พรินเตอร์ที่มีความละเอียด 2880 x 720 dpi มีความละเอียดสูงกว่าพรินเตอร์ที่มีความละเอียด 2400 x 1200 dpi เพราะตัวเลข 2880 dpi ก็ย่อมสูงกว่า 2400 dpi
จริงอยู่ที่พรินเตอร์เครื่องแรกนั้นสามารถอัดจุดลงได้มากถึง 2880 จุดในแนวนอน แต่ในแนวตั้งนั้นกลับทำได้เพียง 720 จุด ดังนั้นจุดในแนวนอนจะชิดกันมากแต่จุดในแนวตั้งจะกระจายห่างจากกัน งานพิมพ์ภาพที่เกิดจากพรินเตอร์ 2880 x 720 dpi จึงหยาบกว่าที่พิมพ์ได้จากพรินเตอร์ 2400 x 1200 dpi ดังนั้นจึงขอให้ตรวจสอบจำนวนจุดรวมที่พรินเตอร์สามารถพิมพ์ได้ก่อนที่จะทำการประเมินความละเอียดของพรินเตอร์ใดๆ
ต้นทุนในการซื้อพรินเตอร์เป็นเพียงการลงทุนก้อนแรกเท่านั้น คุณจำเป็นต้องพิจารณาต้นทุนในการใช้งานจริงที่ประกอบด้วยค่าตลับหมึกพิมพ์และค่ากระดาษพิมพ์ด้วย
ระบบตลับหมึกพิมพ์แยกสีของแคนนอนช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหมึกเฉพาะสีที่หมดได้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งตลับหมึก
ต้นทุนค่าพิมพ์ต่อภาพจะขึ้นอยู่กับประเภทของตลับหมึกพิมพ์ที่ใช้ (ค่าตลับหมึกพิมพ์ขึ้นอยู่กับพรินเตอร์แต่ละรุ่น)
พบกับความล้ำหน้าแบบอินเทรนด์ไปกับ PIXMA Wi-Fi ศึกษาวิธีการใช้งานพรินเตอร์ PIXMA ผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สายที่สามารถตั้งค่าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมวิธีการใช้งานโปรแกรมสุดล้ำอย่าง iEPP (iPhone Easy Photo Print) สั่งพิมพ์ภาพได้โดยตรงจาก iPhone หรือ iPod Touch ผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สาย และ โปรแกรม Full HD Movie Print สั่งพิมพ์ภาพเคลื่อนไหวได้คมชัดเสมือนจริงหยุดนิ่งทุกช็อต