นโยบายความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด - Canon Thailand

ฉบับที่ : 1
วันที่ : 24 กุมภาพันธ์ 2564

ประกาศนโยบายเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด

บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัท” “เรา” หรือ “ต่อเรา”) เป็นผู้ใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ในการสังเกตการณ์พื้นที่ภายในและรอบๆ อาคารและสถานประกอบการ เพื่อปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สินของบริษัท

บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานทั้งหมด กรรมการ ผู้รับเหมา คนงาน ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดๆ ที่เข้าสู่พื้นที่สังเกตการณ์ ทั้งด้านในและด้านนอกอาคารและสถานประกอบการของบริษัท ซึ่งมีการติดตั้ง CCTV (ต่อไปเรียกรวมว่า “คุณ” หรือ “ของคุณ”) ประกาศนโยบายฯ ฉบับนี้มีข้อมูลเรื่องการเก็บ ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของคุณ บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว และจะแจ้งให้คุณทราบถึงการปรับปรุงนั้น (ในกรณีที่สามารถทำได้)

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บ

บริษัทจัดเก็บภาพและภาพเคลื่อนไหวของคุณ และทรัพย์สินของคุณ (เช่น พาหนะ) เมื่อเข้าสู่พื้นที่สังเกตการณ์ในอาคารและสถานประกอบการของบริษัท ซึ่งมีการติดตั้ง CCTV (“ข้อมูล CCTV”)


2. บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างไร

2.1 บริษัทอาจจัดเก็บ ใช้ เปิดเผย โอน หรือดำเนินกิจกรรม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึก การถือการครอบครอง การปรับใช้ การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การทำลาย การลบทิ้ง การกู้คืน การรวม การทำซ้ำ การถ่ายทอด การเก็บรักษา การคัดลอกหรือตัดทอน การปรับปรุง หรือการเพิ่มเติมต่อข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณ สำหรับ “วัตถุประสงค์ของการใช้ CCTV” ดังต่อไปนี้

  • เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล รวมทั้งทรัพย์สินของคุณ
  • เพื่อปกป้องอาคาร สถานประกอบการ และทรัพย์สินจากความเสียหาย การรบกวน การทำลายทรัพย์สิน และอาชญากรรมอื่นๆ
  • เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการยับยั้ง การป้องกัน การตรวจสอบ และการดำเนินคดีอาชญากรรม
  • เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดจากการประพฤติผิดทางวินัย หรือกระบวนการร้องทุกข์
  • เพื่อสนับสนุนการสอบสวน หรือขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อร้องเรียน (whistleblowing complaint) และ
  • เพื่อสนับสนุนการฟ้องร้อง หรือการแก้ต่างคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงขั้นตอนการว่าจ้าง

2.2 บริษัทจะติดตั้งอุปกรณ์ CCTV ในที่ที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่ไม่รวมถึงห้องน้ำ หรือพื้นที่อื่นๆ ที่ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนของพนักงาน หรือพื้นที่ที่อยู่นอกบริษัท

2.3 อุปกรณ์ CCTV ของบริษัทจะถูกเปิดใช้งาน 24 ชั่วโมงต่อวัน และ 365 วันต่อปี โดยไม่มีการบันทึกเสียง

2.4 บริษัทจะติดตั้งป้ายเตือนคุณถึงการใช้งานอุปกรณ์ CCTV ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ติดตั้งอยู่ ทั้งบริเวณทางเข้า และทางออก รวมทั้งบริเวณหลักๆ ที่ถูกสังเกตการณ์


3. หลักกฎหมาย

บริษัทจะไม่จัดเก็บ ใช้เปิดเผย ประมวลผล โอน หรือดำเนินกิจกรรม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึก การถือ การครอบครอง การปรับใช้ การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การทำลาย การลบทิ้ง การกู้คืน การรวม การทำซ้ำ การถ่ายทอด การเก็บรักษา การคัดลองหรือตัดทอน การปรับปรุง หรือการเพิ่มเติมต่อข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อช่วยชีวิต
    บริษัทมีความจำเป็นต้องปกป้องหรือหยุดยั้งอันตรายที่เกิดต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เพื่อสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย
    บริษัทมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปกป้องสุขภาพหรือความปลอดภัยของบุคคล รวมถึงทรัพย์สินของคุณ อาคารและสถานประกอบการของบริษัท ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้ CCTV บริษัทยืนยันจะดำเนินการโดยตรงอยู่บนความสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลที่เกี่ยวข้องตามแต่กรณี รวมทั้งพิจารณาถึงสิทธิพื้นฐานและอิสรภาพของคุณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล CCTV ของคุณ นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นในการกำหนดขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อหาจุดสมดุลในการใช้สิทธินี้อย่างเหมาะสมด้วย
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
    บริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและชีวอนามัยในสถานที่ทำงาน บริษัทพิจารณาการใช้งาน CCTV ตามความจำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้

4. บริษัทเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ใครบ้าง

4.1 บริษัทจะเก็บข้อมูล CCTV ของคุณเป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้บุคคลใด นอกจากบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ และบุคคลภายนอกที่ได้ผ่านการพิจารณาอย่างระมัดระวังทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผู้รับใบอนุญาต คู่ค้าร่วมทุน และ/หรือผู้ให้บริการต่างๆ ซึ่งอาจตั้งอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้ CCTV ซึ่งระบุไว้ภายใต้ประกาศฉบับนี้

4.2 บุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้แก่

  • บริษัทในเครือ
    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูล CCTV หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ของคุณให้บริษัทในเครือ ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายของบริษัทและบริษัทในเครือ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้ CCTV
  • รัฐบาล และ/หรือหน่วยงานที่มีอำนาจ
    บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ของคุณเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อส่งเสริมหรือสนับสนุนหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับกฎหมาย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนและการดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา
  • บุคคลภายนอกที่เป็นผู้ให้บริการ
    บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ของคุณเท่าที่จำเป็น เพื่อปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สิน

5. การโอนข้อมูลไปนอกประเทศไทย

5.1 บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูล CCTV ของคุณเท่าที่จำเป็นไปยังผู้ให้บริการที่อยู่นอกประเทศไทย เพื่อปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สิน การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวจะถูกดำเนินการเมื่อได้รับความยินยอมจากคุณ นอกจากเป็นไปตามข้อยกเว้นที่กฎหมายกำหนด (เช่น การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทและบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพของคุณ)

5.2 ในกรณีที่ข้อมูล CCTV ของคุณถูกถ่ายโอนไปยังประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ต่ำกว่ามาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในประเทศไทย บริษัทจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ส่งไปยังต่างประเทศได้รับการคุ้มครองในมาตรฐานเดียวกับที่บริษัทกำหนดไว้สำหรับคุ้มครองข้อมูล CCTV ของคุณ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีผลบังคับใช้ ณ ขณะนั้น


6. มาตราการด้านความปลอดภัย

6.1 บริษัทใช้มาตรการทางองค์กร เทคนิค และการจัดการที่เหมาะสมในการปกป้องข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากการทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผยซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ การกระทำผิดกฎหมาย หรือการกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต

6.2 บริษัทจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นครั้งคราวเท่าที่จำเป็น เมื่อมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับเงื่อนไขขั้นต่ำที่กำหนดโดยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง


7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูล CCTV ของคุณในระบบของบริษัท เท่ากับระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้ CCTV ตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายยินยอมให้มูล CCTV ของคุณ บรษัทจะลบข้อมูลดังกล่าวทิ้งจากระบบและบันทึกของบริษัท ในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูล CCTV ของคุณอาจถูกเก็บรักษาจนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการ รวมถึงระยะเวลาที่อาจอุทธรณ์ได้ ภายหลังจากนั้นข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบทิ้ง หรือเก็บรักษาต่อไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด


8. สิทธิตามกฎหมายของคุณ

8.1 กรณีที่คุณเชื่อว่าคุณถูกบันทึกข้อมูลในอุปกรณ์ CCTV ของบริษัท คุณจะมีสิทธิดังต่อไปนี้ตามกฎหมาย

  • สิทธิในการเข้าถึง
    คุณมีสิทธิที่จะเข้าถึงและร้องขอสำเนาของข้อมูล CCTV ของคุณ หรือร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูล CCTV ของคุณที่บริษัทมีโดยไม่ได้รับความยินยอม คำร้องดังกล่าวจะต้องทำเป็นหนังสือและส่งไปยัง General Affairs and Procurement Department คำร้องขอของคุณจะถูกดำเนินการภายใน 30 วันนับจากวันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว บริษัทอาจปฏิเสธคำร้องขอของคุณโดยอ้างถึงสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือคำสั่งจากศาล รวมถึงกรณีที่การเข้าถึงและคำร้องขอสำเนาของข้อมูล CCTV ที่เกี่ยวกับคุณอาจกระทบถึงสิทธิและอิสระภาพของบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทพิจารณาว่าไม่สามารถตอบสนองต่อคำร้องขอของคุณได้ บริษัทจะแจ้งให้คุณทราบ พร้อมทั้งเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการแก้ไข
    คุณมีสิทธิที่จะร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่บริษัทเก็บ ใช้ และเปิดเผย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือล้าทันสมัย
  • สิทธิในการปฏิเสธ
    คุณมีสิทธิที่จะปฏิเสธการเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น คำร้องขอของคุณจะได้รับการพิจารณาเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ นับแต่บริษัทได้รับคำร้องขอนั้น บริษัทอาจปฏิเสธการดำเนินการตามคำร้องขอ ในกรณีที่บริษัทพิสูจน์ได้ว่าบริษัทมีเหตุอันควรตามกฎหมายที่จะเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล CCTV ของคุณ หรือการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลเป็นไปเพื่อฟ้องร้องการใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือเพื่อแก้ต่างในข้อเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ในกรณีที่บริษัทพิจารณาว่าไม่สามารถตอบสนองต่อคำร้องขอของคุณได้ บริษัทจะแจ้งให้คุณทราบพร้อมทั้งเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการถอนความยินยอม
    สำหรับวัตถุประสงค์ที่คุณยินยอมให้บริษัทเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูล CCTV ของคุณ คุณมีสิทธิถอนความยินยอมดังกล่าว ไม่ว่าในเวลาใด
  • สิทธิในการขอให้ลบทิ้ง
    คุณมีสิทธิร้องขอให้บริษัทลบข้อมูล CCTV ของคุณ หรือจัดการให้ข้อมูล CCTV ของคุณไม่สามารถระบุตัวตนได้ ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องอนุญาต นอกจากในกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทจำเป็นต้องเก็บข้อมูล CCTV ของคุณ การฟ้องร้องการใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือการแก้ต่างในข้อเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  • สิทธิในการขอรับข้อมูล
    คุณมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูล CCTV ของคุณที่บริษัทเก็บรักษาอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ และส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมรายอื่น ในกรณีที่ (ก) คุณเป็นผู้จัดเตรียมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก้บริษัท และ (ข) บริษัทได้ประมวลผลข้อมูลดังกล่าวตามคำยินยอมหรือสัญญาที่มีกับคุณ  
  • สิทธิในการขอให้เก็บไว้ชั่วคราว
    คุณมีสิทธิที่จะร้องขอให้บริษัทเก็บข้อมูล CCTV ของคุณ ที่บริษัทจะต้องทำลายทิ้งไว้ชั่วคราว ในกรณีที่คุณต้องการข้อมูลเหล่านั้นเพื่อฟ้องร้อง เพื่อใช้สิทธิทางกฎหมาย หรือแก้ต่างในข้อเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  • สิทธิในการร้องเรียน
    คุณมีสิทธิที่จะต้องเรียนบริษัทต่อหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ ในกรณีที่บริษัทไม่ปฏิบัติตาม หรือละเมิดข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้บังคับอยู่ในประเทศไทย รวมถึงนโยบายและระเบียบของบริษัท

9. ติดต่อบริษัท

ในกรณีที่คุณมีข้อกังวล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบาย หรือการใช้สิทธิของคุณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล CCTV กรุณาติดต่อฝ่าย General Affairs and Procurement Division ที่อีเมล CMT-GA@cmt.canon.co.th หรือ หมายเลข 02-344-9999 ต่อ 4848