สำรวจโลกแห่งความเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยกล้องน้ำหนักเบาอย่าง EOS R10 พร้อมนวัตกรรมใหม่ที่มีการติดตั้งเซนเซอร์ APS-C บนเมาท์ RF คุณจะได้เอฟเฟกต์เทเลโฟโต้ได้ประมาณ 1.6 เท่า โดยที่ยังคงความละเอียดภาพไว้สูงดังเดิม
กล้องมิเรอร์เลสรุ่นนี้ สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงถึง 23 เฟรมต่อวินาที ด้วยน้ำหนักเบาประมาณ 429 กรัม
เซนเซอร์ APS-C ใหม่ของแคนนอนได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์เทเลโฟโต้โดยขยายทางยาวโฟกัสได้ประมาณ 1.6 เท่า ในขณะที่ยังคงความละเอียดของภาพไว้ที่ 24.2 ล้านพิกเซล เพิ่มอิสระในการปรับแต่งภาพถ่ายหลังการถ่ายภาพในแบบที่คุณต้องการ
EOS R10 ได้รับการออกแบบ CMOS เซนเซอร์แบบ APS-C ใหม่ที่มีความละเอียดภาพประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล พร้อมซิปประมวลผลภาพ DIGIC X เพิ่มความสามารถในการประมวลผลภาพด้วยความเร็วสูงและให้คุณภาพของภาพสูง
EOS R10 มีช่วงค่าความไวแสงปกติที่กว้างตั้งแต่ 100 ถึง 32,000 จึงให้ภาพที่คมชัดและมีสัญญาณรบกวนภาพต่ำแม้ถ่ายภาพในที่มีแสงน้อย
ฟังก์ชั่นแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์อัตโนมัติ (Digital Lens Optimizer: DLO) ที่มีอยู่ในตัวกล้อง จะช่วยวิเคราะห์ความคลาดเคลื่อน การบิดเบี้ยว และการเลี้ยวเบนของเลนส์ จากนั้นจะทำการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ภาพมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น
ให้ภาพ HDR PQ 10-บิต ที่มีช่วงไดนามิกของภาพกว้างขึ้น ส่งผลในเรื่องการไล่ระดับสีที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความสว่างเพิ่มขีดความสามารถในการไล่ระดับสีให้ดียิ่งขึ้น เพียงใช้งานโหมด HDR PQ ร่วมกับฟังก์ชันปรับสมดุลแสงอัตโนมัติ (Auto Lighting Optimizer) และฟังก์ชั่นเน้นโทนสีไฮไลท์ (Highlight Tone Priority)
ถ่ายภาพเหนือจริงอันแสนน่ามหัศจรรย์ผ่านคุณสมบัติ HDR PQ Composite ในโหมด HDR โดยการซ้อนภาพที่มีระดับแสงแตกต่างกัน 3 ภาพเข้าด้วยกันช่วยขยายช่วงไดนามิกของภาพ HDR ต้นฉบับ ให้กว้างยิ่งขึ้น
ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 15 เฟรมต่อวินาที แบบแมคคานิกชัตเตอร์ร่วมกับฟังก์ชันตรวจติดตามวัตถุอัตโนมัติ AF/AE เทียบเท่ากับขีดความสามารถของกล้อง EOS 1DX Mark III
เพิ่มขีดความสามารถอีกขั้นของการถ่าพต่อเนื่องที่ความเร็วสูงสุด 23 เฟรมต่อวินาที บนอิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันชัตเตอร์แบบไร้เสียงในสถานะการณ์ที่ไม่ต้องการรบกวนตัวแบบและรอบข้าง เช่น คอนเสิร์ต การสัมภาษณ์ และการถ่ายภาพสัตว์ป่า ทั้งนี้ยังสามารถเปลี่ยนไปเปิดใช้การทำงานชัตเตอร์แบบมีเสียงได้หากต้องการ
*อาจมีเสียงอื่นที่ไม่ใช่เสียงชัตเตอร์ (เสียงม่านรูรับแสง ตัวขับเคลื่อนโฟกัสของเลนส์ และเสียงอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ)
ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF II ที่ขับเคลื่อนอยู่บน EOS R10 เสริมขีดความสามารถในการขยายพื้นที่โฟกัสครอบคลุมได้ถึง 100% x 100%* ของพื้นที่ภาพทั้งหมด เมื่อตรวจพบวัตถุการออโต้โฟกัสแบบเต็มพื้นที่ (high-density) ที่ให้กรอบโฟกัสสูงสุด 651 โซน ช่วยให้การโฟกัสและการติดตามวัตถุมีความแม่นยำแม้ในขณะที่วัตถุนั้นเคลื่อนที่ไปจนถึงขอบภาพ
*พื้นที่ครอบคลุมระบบโฟโต้โฟกัสขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้งาน และหากไม่พบการตรวจวัตถุระบบออโต้โฟกัสจะทำงานครอบคลุมพื้น 90% x 100% ของพื้นที่ภาพ
บันทึกทุกช่วงเวลาด้วยกล้อง EOS R10 ด้วยโหมด RAW Burst ที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบตรวจติดตามอัตโนมัติ AF/AE ในรูปแบบไฟล์ RAW
โหมด RAW Burst ของกล้อง EOS R10 สามารถบันทึกภาพล่วงหน้าได้ 0.5 วินาที เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งตัวก่อนที่จะกดชัตเตอร์จริง
*รูปถูกครอป
คุณสมบัติในการตรวจติดตามวัตถุอันอัจฉริยะของ EOS R3 ได้ถูกนำมาใส่ไว้ใน EOS R10 เพื่อให้ขีดความสามารถในการจำแนกองค์ประกอบต่างๆ ภายในเฟรม และเลือกรูปแบบการติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำ
อัลกอริธึมระบบออโต้โฟกัสการตรวจจับบุคคลอันชาญฉลาดของกล้อง EOS R10 สามารถตรวจจับดวงตาได้อย่างง่ายดายแม้บุคคลนั้นจะสวมหน้ากากอยู่ก็ตาม และเมื่อเปิดใช้งานระบบออโต้โฟกัสตรวจจับศีรษะกล้อง EOS R10 ยังสามารถตรวจจับบุคคลที่สวมแว่นตาได้อย่างแม่น
เอาชนะความท้าทายของการถ่ายภาพสัตว์ด้วยโหมด Animal priority ระบบออโต้โฟกัสตรวจจับสัตว์ที่มีอัลกอริธึมเรียนรู้การตรวจจับเชิงลึก สามารถตรวจติดตามสัตว์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยบันทึกโมเม้นต์สัตว์เลี้ยงของคุณได้ภายในชั่วพริบตา!
*สำหรับการถ่ายภาพสัตว์: สุนัข แมว และนก
การจับภาพพาหนะที่มีความเร็วในการเคลื่อนที่ไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป ในโหมด Vehicle Priority ของ EOS R10 มีระบบออโต้โฟกัสสำหรับตรวจจับยานพาหนะ สามารถตรวจจับยานพาหนะต่างๆ เช่น รถแข่งและรถจักรยานยนต์ได้อย่างแม่นยำ
ไม่ว่าจะเป็นการติดตามรถทั้งคันหรือเฉพาะหมวกกันน็อคของผู้ขับขี่ เป้าหมายของคุณจะไม่อยู่นอกโฟกัสอีกต่อไป
EOS R10 สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดระดับ 4K UHD แบบไม่ครอปภาพ ซึ่งประมวลผลจากข้อมูล 6K RGB เพื่อยกระดับคุณภาพของภาพให้สูงขึ้นโดยการลดภาพมัวเร่ รวมถึงช่วยกำจัดความผิดเพี้ยนของสีและสัญญาณรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด
บันทึกไฟล์ภาพเคลื่อนไหวแบบ HDR PQ ที่ 4: 2: 2 10-บิต ด้วยช่วงความสว่างที่สูงขึ้น ช่วงโทนสีที่กว้างขึ้น และช่วงของสีสำหรับการเล่นบนจอแสดงผลที่รองรับ HDR ช่วยประหยัดเวลาการทำสีในกระบวนการหลังการผลิตให้น้อยที่สุด
นอกจากเอฟเฟกต์เทเลโฟโต้ของเซนเซอร์ APS-C (คูณ 1.6 เท่า) แล้ว กล้อง EOS R10 ยังช่วยให้คุณเข้าใกล้ภาพเป้าหมายได้เพิ่มขึ้น 1.8 เท่า เมื่อบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยโหมด 4K UHD Crop
กล้อง EOS R10 ให้มุมมองรับภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้เทียบเท่าประมาณ 1150 มม. เมื่อใช้การซูมภาพระยะไกลที่ 400 มม.
สามารถบันทึกวิดีโอได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น ด้วยการผสมผสานการทำงานของระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) แบบ Movie Digital IS ร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลบนเลนส์ที่รองรับ
เป็นครั้งแรกของกล้อง EOS ที่เพิ่มคุณสมบัติการถ่ายภาพแบบพาโนรามา (โหมด SCN) ไว้ในกล้อง EOS R10 ช่วยให้คุณสร้างภาพถ่ายพาโนรามาที่น่าประทับใจได้ในตัวกล้อง ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้มากถึง 200 ภาพต่อครั้ง และกล้องจะทำการรวมภาพเหล่านั้นเป็นภาพพาโนรามาที่มีคุณภาพและความละเอียดสูง
เมื่อใช้คุณสมบัติการถ่ายภาพด้วย Focus Bracketing ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นสำหรับรวมภาพที่ถ่ายคร่อมระยะโฟกัสที่มีอยู่ในตัวของ EOS R10 ผู้ใช้สามารถเลือกถ่ายภาพได้สูงสุด 999 ภาพเพื่อจับจุดโฟกัสต่างๆ ในฉาก
จากนั้นกล้องจะทำหน้าที่นำรูปภาพเหล่านี้จะถูกจัดวางซ้อนกันโดยอัตโนมัติผ่านการจัดองค์ประกอบตามความชัดลึกของภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่มีโฟกัสคมชัดและมีระยะชัดลึกตั้งแต่ส่วนหน้าไปจนถึงส่วนหลังของภาพ
นอกเหนือจากการชดเชยการสั่นของกล้องในแนวตั้งที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว ระบบออโต้โฟกัสสำหรับตรวจจับยานพาหนะของ EOS R10 ยังเสริมความสามารถให้กล้องตรวจจับวัตถุเพื่อชดเชยการสั่นของตัวแบบได้ ทำให้ประสิทธิภาพการแพนกล้องเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อใช้กับเลนส์ที่เข้ากันได้คุณสามารถเลือกความคมชัดของเอฟเฟกต์การแพนกล้องได้ตามต้องการ
จากนั้นกล้องจะตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับภาพที่จะแพนถ่าย ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น
EOS R10 ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดถนัดมือ โดยมีตัวกล้องทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ทนทาน และน้ำหนักพกพาเพียง 429 กรัม
กล้อง EOS R10 มาพร้อมกับช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) แบบใหม่ที่พัฒนาโดยแคนนอน
ช่อง EVF ความละเอียด 2.36 ล้านจุด โดยประมาณ มาพร้อมกับฟีเจอร์จำลองช่องมองภาพเสมือนจริง เพื่อสร้างมุมมองที่เป็นธรรมชาติเทียบเท่ากับช่องมองภาพแบบออปติคอล (OVF)
EOS R10 เป็นกล้องในระบบ EOS R รุ่นแรก ที่ติดตั้งแฟลชหัวกล้องแบบดึงกลับได้ มีค่าไกด์นัมเบอร์ประมาณ No.6 และทำงานด้วยระบบวัดแสงแฟลชผ่านเลนส์ในโหมด E-TTL II
ช่วยเพิ่มแสงในที่มีสภาพแสงน้อย และสามารถเสริมแสงด้านหน้าได้หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการถ่ายภาพย้อนแสง
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในแนวตั้ง แนวนอน มุมต่ำ หรือมุมสูง ด้วยหน้าจอแอลซีดีระบบสัมผัสที่มีความละเอียดสูง 1.04 ล้านจุด ขนาด 3.0 นิ้ว จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบและเพิ่มความสะดวกเมื่อต้องถ่ายภาพในมุมที่พลิกแพลงมากยิ่งขึ้น
สวิตช์โหมดเฉพาะนี้อยู่บน EOS R10 ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน ช่วยให้คุณสลับการใช้งานระหว่างโฟกัสอัตโนมัติและโฟกัสแบบแมนนวลได้อย่างง่ายดาย
สวิตช์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อติดตั้งกับเลนส์ที่ไม่มีสวิตช์โหมดโฟกัสในตัว
ตัวควบคุมฟังก์ชันได้หลายทิศทาง และปุ่มหมุนตั้งค่าแบบรวดเร็ว ซึ่งเป็นแป้นหมุนควบคุมด่วน ติดตั้งอยู่บนกล้อง EOS R10 ในตำแหน่งที่เหมาะสม คุณไม่ต้องเสียเวลาละสายตาจากช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ
การถ่ายโอนไฟล์แบบไร้สายจาก EOS R10 ไปยังสมาร์ทดีไวซ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณทำได้อย่างรวดเร็วผ่านสัญญาณ Wi-Fi ความเร็วสูง 2.4 GHz* ในตัว ซึ่งกล้อง EOS R10 รองรับมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย WPA3 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับไฟล์บนเครือข่ายไร้สาย
*ข้อมูลจำเพาะอาจแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค
พอร์ต USB-C ช่วยให้ถ่ายโอนรูปภาพจากกล้อง EOS R7 ไปยังสมาร์ทดีไวซ์ระบบ iOS หรือแอนดรอยด์ผ่านแอปพลิเคชัน Camera Connect ทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย คุณสามารถชาร์จพลังงานกล้องผ่านพอร์ต USB ร่วมกับอุปกรณ์เสริมพาวเวอร์อะแดปเตอร์แบบพกพารุ่น PD-E1 (แยกจำหน่าย)
นอกจากนี้ยังสามารถใช้โปรแกรม EOS Utility ของแคนนอนเชื่อมต่อกล้องกับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB
บลูทูธที่มีอยู่ในตัวกล้อง EOS R7 สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ระบบ iOS หรือแอนดรอยด์ และรองรับฟังก์ชันการควบคุมระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน Camera Connect
นอกจากนี้ยังรองรับรีโมทคอนโทรลไร้สายรุ่น BR-E1
สามารถถ่ายโอนรูปภาพและวิดีโอคุณภาพดั้งเดิมจากกล้องของคุณไปยังแพลตฟอร์ม Image.Canon ซึ่งเป็นบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ของแคนนอนได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นคุณจะสามารถอัปโหลดไปยังโซเชียลมีเดีย ดาวน์โหลดข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือแชร์กับบริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ของบริษัทอื่นและแอปพลิเคชันแก้ไขต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยอินเทอร์เฟซรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อกันฝุ่นและละอองน้ำ ช่องเสียบแฟลชมัลติฟังก์ชันแบบใหม่ใช้พลังงานจากตัวกล้องเพื่อรองรับอุปกรณ์เสริมประเภทต่างๆ ได้แก่
