Speedlite EL-5 เป็นแฟลชรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพพื้นฐานในหลายรายการ ทั้งรอบเวลาการชาร์จที่เร็วขึ้น และการป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ พร้อมกับนำแบตเตอรี่ LP-EL ใหม่ล่าสุดมาใช้ ทำให้ Speedlite EL-5 สามารถยิงแสงแฟลชต่อเนื่องถึงประมาณ 350 ครั้ง นอกจากนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตั้งค่าใช้งานแบบไร้สายร่วมกับแฟลชได้หลายตัว
แฟลช Speedlite EL-5 สามารถใช้ได้กับช่องเสียบมัลติฟังก์ชันแบบใหม่ที่ออกแบบไว้สำหรับกล้องรุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ EOS R3 เป็นต้นไป สามารถยึดเข้ากับกล้องรุ่นใหม่ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์
รองรับการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงระหว่างตัวแฟลช Speedlite ที่อยู่ภายนอกและกล้อง เมื่อเทียบแฟลช Speedlite แบบเดิมที่เป็นแบบ 5 พิน กับแฟลช Speedlite EL-5 รุ่นใหม่ที่มีขั้วต่อเคลือบทองแบบ 15 พินทำให้มีโอกาสเกิดออกซิไดซ์น้อยกว่า และให้การเชื่อมต่อที่เสถียรกว่า ในขณะเดียวกันก็ลดการสัมผัสที่ขั้วแฟลชได้น้อยกว่า
Speedlite EL-5 ไม่มีการติดตั้งพัดลมในตัว แต่ยังสามารถปล่อยแสงแฟลชแบบเต็มกำลังได้อย่างต่อเนื่อง มากกว่า 95 ครั้ง ซึ่งช่วยให้สามารถตอบสนองสถานการณ์ที่ต้องถ่ายภาพโดยใช้แฟลชต่อเนื่องเป็นเวลานาน
*องศาของแสงแฟลชครอบคลุม 35 มม. จำนวนการยิงแฟลชได้ต่อเนื่องสูงสุดที่ความเข้มแฟลชระดับ 2 เมื่อใช้แบตเตอรี่ LP-E1 ใหม่ที่ชาร์จจนเต็ม ตามมาตรฐานการทดสอบของแคนนอนจากการใช้งานแฟลชแบบปรับตั้งค่าเอง
Speedlite EL-5 ออกแบบมาให้รองรับการใช้แฟลชหลายตัวได้พร้อมกัน ดังนั้นจึงมีฟังก์ชันการสื่อสารด้วยสัญญาณวิทยุแบบไร้สาย แฟลชตัวส่งสัญญาณสามารถควบคุมแฟลชตัวรับสัญญาณพร้อมกันได้ถึง 15 ตัว และแบ่งแฟลชให้ทำงานได้สูงสุด 5 กลุ่ม โดยเฉพาะเมื่อใช้ Speedlite EL-5 ร่วมกับ EOS R6 Mark II คุณจะสามารถใช้คุณสมบัติเมนูสำหรับควบคุมกลุ่มแฟลชแบบเร่งด่วน (Quick Flash Group Control) เพื่อปรับการตั้งค่าของแฟลชแต่ละกลุ่มได้โดยตรงจากจอ LCD ของกล้อง
Speedlite EL-5 ใช้แบตเตอรี่ความจุสูงรุ่น LP-EL เพื่อให้การถ่ายภาพด้วยแฟลชเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเชื่อถือได้ เนื่องจากตัวแฟลชไม่มีพัดลมระบายความร้อน จึงมีกำลังไฟสำหรับการยิงแฟลชได้มากกว่า *350 ครั้งโดยประมาณ เมื่อเทียบกับ Speedlite EL-1 (ประมาณ 335 ครั้ง)
*แบตเตอรี่ LP-EL ใหม่ที่ชาร์จไฟจนเต็ม
แฟลชแบบไร้สายนี้ติดตั้งหลอด LED ที่จะยิงแสงเพื่อช่วยนำโฟกัสอัตโนมัติพร้อมทั้งฟังก์ชันปรับแสงของหลอดไฟอัตโนมัติเพื่อช่วยให้คุณตั้งค่าเปิด/ปิดหลอดไฟนำโฟกัสของแฟลชตัวรับสัญญาณจากแฟลชตัวส่ง นอกจากนี้การลดความเข้มของแสงลงยังเป็นการช่วยให้ผู้ที่ถูกถ่ายไม่รู้สึกว่าแสงนำโฟกัสสว่างจ้าจนเกินไปอีกด้วย