แคนนอน ฉลองครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของโลกปีที่ 20 ติดต่อกัน ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ - Canon Thailand

    แคนนอน ฉลองครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของโลกปีที่ 20 ติดต่อกัน
    ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้

    แคนนอน (Canon) ประกาศความสำเร็จครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของโลกเป็นปีที่ 20 ติดต่อกัน[1] ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ (ทั้งกล้องดิจิทัล DSLR และกล้องมิเรอร์เลส) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003-2022

    แคนนอนได้พัฒนาอุปกรณ์ในระบบการถ่ายภาพชั้นเลิศในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูล EOS โดยมีทั้งกล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS, เซ็นเซอร์ประมวลผลภาพ และชุดเลนส์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed, Comfort and High Image Quality” ด้วยกลุ่มสินค้าที่หลากหลายของแคนนอน นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์รุ่นแฟล็กชิปประสิทธิภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจจากช่างภาพมืออาชีพ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ระดับเริ่มต้นที่ทำให้ช่างภาพรุ่นใหม่ได้สนุกสนานกับประสบการณ์ภาพถ่ายคุณภาพสูงด้วยการทำงานที่ง่ายดาย รวมไปถึงเลนส์ตระกูล RF และ EF หลากหลายรุ่นที่ช่วยให้ช่างภาพสามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มศักยภาพ ทำให้แคนนอนสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของแต่ละกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม

    ในช่วงยุคแรกของกล้องดิจิทัล SLR แคนนอนได้ออกกล้องรุ่นปฏิวัติวงการอย่าง EOS 300D (หรือชื่อ EOS Kiss Digital, EOS Digital Rebel ในบางภูมิภาค) เมื่อเดือนกันยายน 2003 โดยกล้องแนวใหม่ที่ตั้งราคาโดนใจผู้บริโภค แถมมาพร้อมขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา และดีไซน์ที่สวยงามรุ่นนี้ ได้กลายเป็นกลไกสร้างการเติบโตหลักในตลาดกล้องดิจิทัล SLR โดยครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดทั่วโลกและถือเป็นการเปิดยุคใหม่แห่งกล้องดิจิทัล SLR อย่างสมบูรณ์แบบ นับตั้งแต่นั้นมา แคนนอนก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ปฏิวัติวงการอีกหลายรุ่น ซึ่งรวมถึงกล้องระดับมืออาชีพตระกูล EOS-1D และ EOS 5D ซึ่งได้ปูทางไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายวิดีโอ SLR ในเวลาต่อมา ความมุ่งมั่นของแคนนอนที่ต้องการขยายขอบเขตการบันทึกภาพนำไปสู่การพัฒนาระบบ EOS R รุ่นใหม่ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2018 ซึ่งรวมถึง EOS R5 กล้องรุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอ 8K[2] ซึ่งเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2020 และ EOS R3 ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งมีฟีเจอร์ติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วและการถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง นอกจากนี้ แคนนอนยังเปิดตัวระบบ EOS VR ซึ่งออกแบบมาสำหรับการบันทึกวิดีโอคอนเทนต์แบบ Virtual reality โดยเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2021

    ในปี 2022 แคนนอนได้ประกาศเปิดตัว EOS R7 (วางจำหน่ายเดือนมิถุนายน 2022) และ EOS R10 (วางจำหน่ายเดือนกรกฎาคม 2022) ซึ่งเป็นกล้องขนาดเซ็นเซอร์ APS-C กลุ่มแรกในตระกูล EOS R รวมถึงกล้องฟูลเฟรม EOS R6 Mark II (วางจำหน่ายเดือนธันวาคม 2022) ซึ่งนำเสนอฟีเจอร์ออโต้โฟกัสขั้นสูงและประสิทธิภาพด้านวิดีโอขั้นสุดยอด ร่วมกับเลนส์ RF รุ่นใหม่อีก 6 รุ่นใหม่[3] โดยในขณะมุ่งมั่นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ แคนนอนยังสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ ครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกสูงสุดเป็นอันดับ 1 ได้ถึง 20 ปีติดต่อกัน

    แคนนอนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งของบริษัท พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและขยายขอบเขตการใช้งานให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องตระกูล EOS และเลนส์ RF/EF เพื่อมอบแนวทางการบันทึกภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น


    [1] พิจารณาจากผลการสำรวจของแคนนอน
    [2] ในกลุ่มกล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ที่วางจำหน่ายก่อนวันที่ 8 กรกฎาคม 2020
    [3] ในปี 2022 แคนนอนวางจำหน่ายเลนส์ดิจิทัลสำหรับถอดเปลี่ยน 6 รุ่น ได้แก่ RF800mm F5.6 L IS USM (พฤษภาคม), RF1200mm F8 L IS USM (พฤษภาคม), RF-S18-45mm F4.5-6.3 IS STM (มิถุนายน), RF-S18-150mm F3.5-6.3 IS STM (มิถุนายน), RF24mm F1.8 MACRO IS STM (สิงหาคม), RF15-30mm F4.5-6.3 IS STM (สิงหาคม)