ท้าทายทุกการทำงานทั้งด้านวิดีโอและถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้อง EOS R6 Mark II ที่เปี่ยมล้นด้วยความสามารถในการบันทึกภาพยนตร์คุณภาพสูงระดับ 6K 60p 10-บิต ในรูปแบบไฟล์ RAW ผ่านการบันทึกภายนอกด้วย HDMI เรียกได้ว่ากล้องตัวนี้เป็นตัวเปลี่ยนเกมใหม่ของวงการ ที่ให้คุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยมและมอบอิสระในกระบวนการปรับแต่งหลังการผลิตภาพได้ตามความต้องการ การถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความแม่นยำสูง 40 เฟรมต่อวินาที ช่วยให้คุณบันทึกรายละเอียดของภาพอันแสนน่าประทับใจได้ทุกช่วงเวลา
EOS R6 Mark II ผลิตวิดีโอคุณภาพระดับ 4K ที่น่าทึ่งได้อย่างสมบูรณ์แม้บันทึกด้วยเฟรมเรทสูง 60 เฟรมต่อวินาที (60p) โดยการบันทึกวิดีโอจาก 6K Oversampling ที่นำอัลกอริทึม Debayer สำหรับการสร้างสีที่สมบูรณ์จากไฟล์ RAW บนระบบ CINEMA EOS มาใช้งาน ทำให้ได้ไฟล์วิดีโอคุณที่มีความคมชัดสูงและสัญญาณรบกวนภาพต่ำกว่าการบันทึก 4K โดยตรง
เติมแต่งเรื่องราวในการเล่าเรื่องของคุณให้น่าตื่นตาตื่นใจด้วยเอฟเฟกต์ Slow-motion จากการบันทึกวิดีโอแบบ Full High Definition (FHD) 180p ที่ให้ความละเอียดสูงเต็มรูปแบบ
สามารถปรับภาพเคลื่อนไหวให้ช้าลงได้ถึง 6 เท่า เมื่อเล่นวิดีโอที่ 30 เฟรมต่อวินาที ไม่ว่าจะเป็นภาพขณะกระโดดลงน้ำ โปรยกระดาษสายรุ้ง หรือกระโดดลอยตัวกลางอากาศ
เพิ่มขีดความสามารถด้านการปรับแต่งไฟล์วิดีโอจากการบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่ความละเอียด 6K 60p 10-บิต แบบไฟล์ RAW* ที่ให้ช่วงไดนามิกกว้างขึ้นและให้ความคมชัดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้คุณยังได้อิสระในการแพนและซูมบนความละเอียด 6K ได้อย่างง่ายดาย โดยยังคงคุณภาพการแสดงผลงานวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
*สามารถบันทึกโดยผ่าน HDMI ไปยังอุปกรณ์บันทึกภายนอกที่รองรับเท่านั้น ตัวอย่างเช่น จอมอนิเตอร์ Atomos Ninja V+
โดยทั่วไปเมื่อเปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่จะส่งผลให้ทางยาวโฟกัสเปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้มุมมองของเฟรมภาพมีการขยับเหมือนอาการโฟกัสไหล กล้อง EOS R6 Mark II ได้รับการแก้ไขปัญหานี้ เมื่อมีการเปลี่ยนจุดโฟกัสมุมมองของเฟรมภาพยังคงเท่าเดิม ทำให้การบันทึกวิดีโอมีความลื่นไหลต่อเนื่อง
เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์การนำเสนอได้มากยิ่งขึ้น คุณยังสามารถเลือกปรับระดับความเร็วในเปลี่ยนการโฟกัสที่เหมาะสมและตามความเร็วของตัวแบบได้อีกด้วย
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Coordinated Control เป็นการทำงานผสานกันระหว่างระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องถึง 3 ระบบ ได้แก่ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบ 5 แกน ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบดิจิทัลสำหรับการถ่ายภาพยนตร์
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวของ EOS R6 Mark II ช่วยลดการสั่นไหวของกล้องหรือการสั่นไหวที่เกิดขึ้นขณะการเดินเคลื่อนที่พร้อมบันทึกภาพไปพร้อมกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถบันทึกภาพให้นิ่งได้แม้ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง
กล้อง EOS R6 Mark II สามารถทำงานเป็นกล้องภายนอกหรือเว็บแคมได้ทันทีโดยไม่จำต้องใช้ไดร์เวอร์หรือแอปพลิเคชันใดเพิ่มเติม เพียงแค่ต่อสาย USB ที่รองรับ USB Video Class/USB Audio Class (UVC/UAC) เข้ากับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ MacOS
สร้างความแตกต่างให้ตัวเองโดยการเข้าถึงผู้ชมด้วยคุณภาพวิดีโอที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการถ่ายทอดสดของคุณ
คุณสามารถล็อกตัวแบบที่ต้องการถ่ายภาพได้ภายในพริบตาด้วยความเร็วสูงสุดของระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ 0.03 วินาที ผสานกับความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที บนอิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์ และสูงสุด 12 เฟรมต่อวินาที บนแมคคานิกชัตเตอร์ พร้อมด้วยฟังก์ชันการตรวจติดตามวัตถุอัตโนมัติ AF/AE ของกล้อง EOS R6 Mark II จะสามารถจับภาพกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วได้อย่างแม่นยำ
การถ่ายภาพต่อเนื่องแบบไร้เสียงที่ 40 เฟรมต่อวินาที ช่วยได้มากในสถานการณ์ที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น การถ่ายในคอนเสิร์ตหรือการถ่ายภาพสัตว์ป่า
เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรม ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ที่พัฒนาขึ้นใหม่ร่วมกับระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ใหม่ล่าสุด ให้ภาพคุณภาพระดับสูงพร้อมกับสัญญาณรบกวนภาพต่ำ
จับภาพที่น่าทึ่งได้คมชัดและให้รายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้ในสภาพแสงที่ท้าทายด้วยความไวแสงต่ำถึงระดับ EV -6.5 และค่าความไวแสง (ISO) สูงถึง 102,400
โหมด HDR ช่วยให้คุณได้ภาพที่มีรายละเอียดสมจริงด้วยการไล่ระดับโทนสีของช่วงแสงที่กว้างขึ้นประมาณ 3000 นิต เมื่อตั้งค่าถ่ายภาพในโหมด HDR กล้องจะถ่ายภาพต่อเนื่องสามภาพในค่าแสงที่ต่างกัน จากนั้นจึงรวมภาพทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์มากที่สุด 1 ภาพ
นอกจากนี้ในโหมด HDR ยังมีฟังก์ชันใหม่สำหรับการบันทึกวัตถุที่เคลื่อนที่ ช่วยให้คุณได้ภาพที่ดีที่สุดของตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยการถ่ายเพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องถ่าย 3 ครั้งแบบเดิมๆ
ท้าทายตัวคุณเองด้วยการตั้งค่าเวลาเปิดรับแสงให้นานขึ้น ก้าวข้ามขีดจำกัดของความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมกับได้ภาพที่คมชัด
ในตัวกล้อง EOS R6 Mark II มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกน ช่วยลดการสั่นไหวของภาพสูงสุด 8 สต็อป คุณจึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดแม้ในที่แสงน้อยโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
ปลดล็อกศักยภาพของภาพอย่างเต็มรูปแบบเมื่อถ่ายภาพในรูปแบบไฟล์ RAW
คุณสามารถแปลงไฟล์ RAW ได้อย่างง่ายดายภายในตัวกล้อง หรือผ่านซอฟต์แวร์ Canon Digital Photo Professional บนเครื่องพีซี และได้คุณภาพของไฟล์ JPEG ที่สูงยิ่งขึ้นเมื่อแปลงไฟล์ RAW ผ่านระบบ Cloud RAW Image Processing ด้วยการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกแบบอัตโนมัติในกระบวนการประมวลผลภาพ ภาพที่ได้จึงมีสัญญาณรบกวนภาพต่ำทำให้ไม่สูญเสียรายละเอียดของภาพ
*คุณสมบัตินี้เป็นบริการแบบมีค่าใช้จ่ายและรองรับการใช้งานสำหรับกล้องบางรุ่นเท่านั้น
ด้วยระบบ EOS iTR AF X กล้องจะตรวจจับและติดตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำโดยที่คุณไม่ต้องกังวลในระหว่างที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดองค์ประกอบภาพให้ดีที่สุด
คุณจะทึ่งกับความสามารถของกล้องในการติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย ศีรษะ หรือดวงตาของมนุษย์ได้อย่างแม่ยำ ถึงแม้จะถูกบดบังอยู่ก็ตาม
EOS R6 Mark II ยังมีคุณสมบัติที่สามารถเลือกล็อคโฟกัสติดตามดวงตาซ้ายหรือตาขวาได้ (Left/Right Eye Priority Tracking) ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อต้องถ่ายภาพบุคคลในระยะใกล้ที่มีการเคลื่อนที่
การทำให้สัตว์อยู่ในโฟกัสตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นคุณสมบัติที่เน้นติดตามเป้าหมายที่เป็นสัตว์ของแคนนอนจึงได้รับการยอมรับอย่างมากจากช่างภาพที่นิยมถ่ายรูปสัตว์
นอกจากจะสามารถตรวจจับและติดตามใบหน้า ดวงตา และร่างกายของสัตว์ประเภทแมว สุนัข และนก ยังเพิ่มความสามารถใหม่ในการถ่ายภาพม้าได้อีกด้วย
คุณสมบัติที่เน้นตรวจจับและติดตามเป้าหมายที่เป็นยานพาหนะ รวมไปถึงการจับโฟกัสที่หมวกกันน็อคของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ ช่วยให้คุณได้ภาพที่คมชัดในโลกของการแข่งขันยานยนต์ที่ต้องอาศัยความเร็วเป็นหลัก
เพิ่มความสามารถอีกขั้นด้วยการตรวจจับและติดตามตัวแบบที่เป็นรถไฟและเครื่องบิน ทำให้การถ่ายภาพของคุณเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น
คุณสมบัตินี้จะตรวจจับและติดตามเป้าหมายให้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณไม่สามารถระบุประเภทของตัวแบบที่ต้องการได้อย่างชัด เพียงเลือกฟังก์ชันนี้กล้องจะทำการตรวจจับและติดตามตัวแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้โหมดออโต้โฟกัสแบบเฉพาะเจาะจงประเภทตัวแบบ (AF Priority)
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกจำกัดประเภทของตัวแบบที่ต้องการให้ตรวจจับและติดตามได้เอง (limit subject to detect) ซึ่งตัวแบบที่ไม่ถูกเลือกจะไม่สามารถใช้งานได้
เพิ่มสมรรถนะของกล้องในการติดตามเป้าหมาย
ประสิทธิภาพการติดตามเป้าหมายของกล้องเพิ่มขึ้นโดยการนำเทคโนโลยีการประมวลผลอัจฉริยะมาใช้กับการตรวจติดตามเป้าหมาย ด้วยการแยกคุณสมบัติของตัวแบบผ่านการเรียนรู้เชิงลึกแบบอัตโนมัติของปัญญาประดิษฐ์ กล้อง EOS R6 Mark II สามารถติดตามเป้าหมายที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงท่าทาง ทิศทาง หรือความสว่างของสภาพแวดล้อม
เมื่อคุณเชื่อมต่อ EOS R6 Mark II กับอุปกรณ์อัจฉริยะ Android หรือ iOS ของคุณด้วยสาย USB-C ที่เข้ากันได้ หรือเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi (2.4GHz/5GHz) หรือใช้เทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ (BLE) คุณจะสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า ควบคุมชัตเตอร์กล้องจากระยะไกล รวมถึงถ่ายโอนวิดีโอและรูปภาพไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะของคุณผ่านแอป Camera Connect ของแคนนอน
สำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ทำงานนอกสถานที่ ยังสามารถถ่ายโอนภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP ระยะไกลโดยใช้แอป Mobile File Transfer
ออกแบบการจัดวางตำแหน่งของปุ่มและสวิตช์ต่างๆ ใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกตามการใช้งานของช่างภาพ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มคันโยกพิเศษเพื่อสลับระหว่างโหมดภาพถ่ายนิ่งและวิดีโอ ช่วยให้สามารถสลับโหมดการบันทึกภาพได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้แป้นหมุนเลือกโหมด
พื้นผิวของตัวควบคุมมัลติฟังก์ชันได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มการรับรู้ที่แม่นยำจากการสัมผัส
ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) OLED คุณภาพสูงขนาด 0.5 นิ้วที่ความละเอียดสูงประมาณ 3.69 ล้านจุดให้การสร้างสีที่ยอดเยี่ยมใกล้เคียงกับพื้นที่สี sRGB ด้วยอัตราการรีเฟรชสูงถึง 119.88 เฟรมต่อวินาที การดูภาพจึงสะดวกและราบรื่นแม้ในระหว่างการถ่ายภาพต้องมีการแพนกล้องอย่างรวดเร็วก็ตาม
กลไกชัตเตอร์ของ EOS R6 Mark II มีความทนทานต่อการใช้งานเป็นเยี่ยมที่ 400,000 รอบโดยประมาณ คุณจึงสามารถถ่ายภาพต่างๆ ได้อย่างวางใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชำรุดของชัตเตอร์
สามารถตั้งค่าให้ม่านชัตเตอร์ปิดเมื่อปิดกล้องเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้า และยังสามารถตั้งค่าให้เปิดค้างไว้เพื่อป้องกันเสียงรบกวนขณะเปิดกล้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการความเงียบขณะถ่ายภาพ